โทรศัพท์:+86-532 85807910
อีเมล:[email protected]
คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับแมกนีเซียมหรือไม่? แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายของคุณต้องการเพื่อให้แข็งแรงและทำงานได้อย่างเต็มที่ มันช่วยให้กล้ามเนื้อ หัวใจ และกระดูกทำงานได้อย่างเหมาะสม เราจะพูดถึงเหตุผลที่ร่างกายของคุณต้องการแมกนีเซียม วิธีสังเกตว่าคุณได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ ประโยชน์ของแมกนีเซียมที่ช่วยให้นอนหลับดีขึ้นและลดความเครียด อาหารชนิดใดบ้างที่คุณสามารถรับประทานเพื่อรับแมกนีเซียมให้เพียงพอ และข้อดีของการรับประทานอาหารเสริมแมกนีเซียม
ร่างกายของคุณใช้แมกนีเซียมในการทำงานที่สำคัญหลายอย่าง หนึ่งในหน้าที่หลักของแมกนีเซียมคือช่วยให้กล้ามเนื้อของคุณทำงานได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ แมกนีเซียมยังช่วยให้หัวใจเต้นแข็งแรงและสม่ำเสมอ หากคุณได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ คุณอาจรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง หรือมึนหัว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณจึงต้องได้รับแมกนีเซียมให้เพียงพอในทุกๆ วัน!
ร่างกายของคุณอาจส่งสัญญาณว่าคุณต้องการแมกนีเซียมมากขึ้น หากคุณได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ สัญญาณเตือนบางอย่างที่ควรสังเกต ได้แก่ กล้ามเนื้อเป็นตะคริว เหนื่อยล้าตลอดเวลา หรือรู้สึกกังวลหรือเครียด นี่คือสิ่งที่สัญญาณเหล่านี้อาจบ่งบอกว่าคุณควรเพิ่มแมกนีเซียมในอาหารของคุณ

คุณรู้หรือไม่ว่าแมกนีเซียมสามารถช่วยให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นในคืนนั้น มันช่วยผ่อนคลายร่างกายของคุณ ทำให้คุณหลับง่ายขึ้น แมกนีเซียมยังช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายตลอดทั้งวัน เมื่อร่างกายของคุณมีแมกนีเซียมเพียงพอ จะช่วยให้คุณรู้สึกสงบและผ่อนคลาย ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งต่อร่างกายและจิตใจของคุณ

มีอาหารอร่อยๆ ที่อุดมไปด้วยแมกนีเซียมมากมาย ที่คุณสามารถนำมารวมในมื้ออาหารของคุณได้ อาหารบางชนิดที่มีแมกนีเซียมสูง ได้แก่ ผักใบเขียว เช่น ผักโขมและคะน้า ถั่วและเมล็ด เช่น ถั้วอัลมอนด์และเมล็ดทานตะวัน รวมถึงธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้องและข้าวโอ๊ต นอกจากนี้ยังมีในกล้วย อะโวคาโด และแม้แต่ช็อกโกแลตดาร์กอีกด้วย ลองเตรียมอาหารมื้อหนึ่งด้วยส่วนผสม้เหล่านี้ เพื่อช่วยให้คุณได้รับแมกนีเซียมเพียงพอในแต่ละวัน

คุณยังสามารถรับประทานอาหารเสริมแมกนีเซียมได้อีกด้วย หากคุณได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอจากอาหาร ตัวช่วยเสริมเหล่านี้อาจช่วยในการดูแลกล้ามเนื้อ หัวใจ และกระดูกของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น ยังอาจช่วยให้คุณรู้สึกเครียดน้อยลง และนอนหลับได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรพูดคุยกับผู้ใหญ่เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของคุณเอง หรือแพทย์ เพื่อปรึกษาเรื่องการเริ่มรับประทานอาหารเสริมใหม่ๆ